การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติ

วิเคราะห์ทีมชาติเวลส์ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2020

ทีมชาติเวลส์ภายใต้การ กลุ่มทีมของไรอันกิ๊กอดีตปีกตำนานของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พาทีมเข้ารอบสุดท้ายมาด้วยผลงานอันดับ 2 ในกลุ่มมีซึ่งเป็นรองโครเอเชียอยู่ 3 แต้มและเขี่ยเอาชนะสโลวาเกียผ่านเข้ารอบนี้มาได้แค่ 1 แต้มเท่านั้น ทำให้ทีมชาติเวลส์ชุดนี้มีโอกาสที่จะสร้างผลงานดีๆเหมือนครั้งฟุตบอลโลกที่ผ่านมาให้ประจักษ์สู่สายตาของแฟนฟุตบอลทั่วโลก

โดยการจับฉลากรอบสุดท้ายของฟุตบอลยุโรปปี นี้ ทีมชาติเวลส์อยู่ร่วมสายกลุ่ม a กับทีมชาติอิตาลีทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์และทีมชาติตุรกี และถูกยกให้เป็นเต็งสิบเจ็ด จากอัตราต่อรองแทง 1 จ่าย 101 จากบ่อนพนันที่ถูกต้องตามกฎหมายของสื่อต่างประเทศ ซึ่งราคานี้บ่งบอกได้ชัดว่าสื่อต่างประเทศไม่เชื่อในฝีมือของทีมชาติเวลส์ที่จะสามารถมีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์และสร้างเทพนิยายได้เหมือนกับทีมเดนมาร์ก

และทีมกรีซที่เคยทำไว้ต่อให้ทีมชาติชุดนี้มีนักเตะที่เล่นอยู่บนแผ่นดินอังกฤษและเป็นที่รู้จักมากมายและยังมีแกเร็ธเบลซึ่งเป็นสตาร์ทีมของชุดนี้ด้วยร่วมลงแข่งขันด้วยสื่อก็ยังคิดว่าทีมชาติเวลส์จะมีโอกาสกลับบ้านก่อนกำหนด และตกรอบแรกค่อนข้างแน่นอนเพราะอันดับ 1 ในกรุ๊ปนี้คงถูกจับจองด้วยทีมชาติอิตาลีส่วนอันดับ 2 ทีมชาติเวลส์ต้องแข่งและแย่งชิงกันระหว่างสวิตเซอร์แลนด์และตุรกีซึ่งนั่นหมายความว่าอีก 2 ทีมที่เหลือนั้นมีศักยภาพที่ดีกว่าทีมชาติเวลส์ค่อนข้างพอตัว หากมามองด้วยตัวผู้เล่นทีมชาติเวลส์ชุดนี้มีอยู่จะประกอบไปด้วย

แกเร็ธเบลสตาร์จากทีมรีลมาดริด อารอน แรมซี่กองกลางจากยูเวนตุ วิลเลียมกองหลังจอมเก๋ากัปตันทีม และ Daniel James ปีกดาวรุ่งจากสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดรวมไปถึง ซึ่งต้องบอกว่ารายชื่อที่เอ่ยมาทั้งหมดนี้เป็นที่รู้จักของแฟนบอลอังกฤษแทบทั้งนั้นเพราะนักเตะเหล่านี้โลดแล่นอยู่ในสโมสรต่างๆชั้นนำของพรีเมียร์ชิพ

แต่นั่นก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้สื่อต่างๆเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมเหล่านี้ว่าจะผ่านเข้ารอบ 2 ไปได้ โดยโปรแกรมการแข่งขันรอบแรกนั้นจะพบกับสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 13 และต่อจากนั้นจะพบกับตุรกีในวันที่ 17 และวันสุดท้ายจะแข่งกับอิตาลีในวันที่ 21 เมื่อถึงเวลานั้นเราคงได้รู้ว่าสื่อพนันตามที่ถูกต้องตามกฎหมายของอังกฤษจะฟันธงผิดหรือไม่ แต่โดยส่วนตัวของผู้เขียนเชื่อว่าทีมชาติเวลส์ทีมนี้แหละจะเป็นตัวแปรสำคัญว่าทีมใดจะเป็นทีมที่เข้ารอบตามอิตาลีไป และเชื่อว่าที่มังกรแดงของไรอันกิ๊กส์นี้มีโอกาสที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ไม่มากก็น้อยในการแข่งขันฟุตบอลยุโรปครั้งนี้

10 นักเตะที่ได้ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มากที่สุดในท็อป 5 ลีกซีซั่นนี้

นักฟุตบอลในเวทีระดับสูงส่วนใหญ่จะได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วงอาชีพค้าแข้ง ผู้เล่นบางคนดีมากจนพวกเขาได้รางวัลดังกล่าวหลายครั้งในแต่ละฤดูกาล ด้วยข้อมูลของ WhoScored.com นี่คือ 10 นักเตะจากท็อป 5 ลีกยุโรปที่คว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มากที่สุดในฤดูกาลนี้

  1. โจซิป อีลิซิช: 6 ครั้ง

สโมสร: อตาลันต้า

คะแนนเฉลี่ย: 7.86

ดาวเตะวัย 32 ปีทำไปได้ 14 ประตูและอีก 3 แอสซิสต์ในศึกกัลโช่ เซเรีย อา ให้กับ อตาลันต้า ในฤดูกาลนี้

  1. จาดอน ซานโช่:  6 ครั้ง 

สโมสร: โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
คะแนนเฉลี่ย: 7.97

ซานโช่ ได้รับการยืนยันว่าจะย้ายออกจากทีมในซัมเมอร์นี้ ดาวเตะวัย 19 ปียิงได้ 13 ประตูและอีก 14 แอสซิสต์จากการลงสนามเพียง 20 นัดเท่านั้นในบุนเดสลีกาฤดูกาลนี้

  1. คาริม เบนเซม่า: 7 ครั้ง 

สโมสร: เรอัล มาดริด
คะแนนเฉลี่ย: 7.57

เบนเซม่า โชว์ฟอร์มได้ดีในซีซั่นนี้ หัวหอกเฟรนช์แมนยิงได้ 13 ประตูและอีก 6 แอสซิสต์ช่วยให้ โลส บลังโกส ทิ้งห่าง บาร์เซโลน่า 3 แต้ม

  1. ดิมิทรี่ ปาเยต: 7 ครั้ง 

สโมสร: โอลิมปิก มาร์กเซย

คะแนนเฉลี่ย: 7.71

ด้วยวัย 32 ปี ปาเยต ยังคงเป็นนักเตะที่มีคุณภาพเหมือนเดิม กองกลางชาวฝรั่งเศสทำไปได้ 8 ประตูและอีก 3 แอสซิสต์จาก 19 เกม

  1. ชิโร่ อิมโมบิเล่: 8 ครั้ง 

สโมสร: โอลิมปิก มาร์กเซย

คะแนนเฉลี่ย: 7.33

ดาวซัลโวของเซเรียอาด้วยจำนวน 25 ประตู ซึ่งคิดเป็น 47% จากประตูของลาซิโอในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว 

  1. ติโม แวร์เนอร์: 8 ครั้ง 

สโมสร: แอร์เบ ไลป์ซิก

คะแนนเฉลี่ย: 7.69 

แวร์เนอร์ ตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ ลิเวอร์พูล เขาทำไปได้ 20 ประตูและอีก 6 แอสซิสต์จาก 21 เกมในฤดูกาลนี้

  1. โฆเซลู: 8 ครั้ง 

สโมสร: เดปอร์ติโบ อลาเบส

คะแนนเฉลี่ย: 7.75

โฆเซลู กับ ลูคัส เปเรซ ยิงได้ 9 ประตูเท่ากันจาก 25 นัดในลาลีกาฤดูกาลนี้ แต่เป็นอดีตกองหน้าของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด คว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มากที่สุด

  1. คริสเตียโน่ โรนัลโด้: 8 ครั้ง 

สโมสร: ยูเวนตุส

คะแนนเฉลี่ย: 7.91 

โรนัลโด้ เพิ่งฉลองอายุครบ 35 ปีได้ไม่นาน แต่ยังคงโชว์ฟอร์มระดับโลกได้เกือบทุกสัปดาห์ ตำนานของดาวเตะชาวโปรตุกีสทำได้ 20 ประตูและอีก 2 แอสซิสต์จาก 20 นัด

  1. เนย์มาร์: 8 ครั้ง 

สโมสร: ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 

คะแนนเฉลี่ย: 8.66

เนย์มาร์ อาจต้องการย้ายออกจาก เปแอสเช เมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องในลีกเอิง ด้วยการทำไป 13 ประตูและ 6 แอสซิสต์จาก 14 นัดเท่านั้น

  1. ลิโอเนล เมสซี่: 10 ครั้ง 

สโมสร: บาร์เซโลน่า

คะแนนเฉลี่ย: 8.67 

เมสซี่ คือคนเดียวที่สามารถคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ด้วยจำนวนสองหลัก พร้อมกับยิงประตูและแอสซิสต์ด้วยเลขสองหลักเช่นกัน (14 ประตู 11 แอสซิสต์) มันก็ไม่น่าแปลกใจหากจบซีซั่นนี้แล้วเขาจะมีชื่อลุ้นบัลลงดอร์สมัยที่ 7

ตำนานนักกอล์ฟที่ต้องจดจำ

Bobby Jones หนึ่งในตำนานนักกอล์ฟที่ต้องจดจำ

สุดยอดนักกอล์ฟอีกผู้หนึ่ง ที่ถูกจาลึกและยกย่องไว้ว่า เป็นนักกอล์ฟที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ แต่ใช่ว่าทุกคนจะเห็นด้วยแบบนั้น

ทั้งนักกีฬากอล์ฟคนอื่นๆจนถึงเหล่าแฟนๆกอล์ฟต่างมองเขาว่า เป็นนักกอล์ฟมือสมัครเล่นที่ดีที่สุดบนโลกใบนี้ ต่างหาก แต่ไม่ว่าใครจะคิดยังไงเขาก็มีฝีมือที่ฉกาจมากๆคนนึง และเขาก็ถ่อมตัวอยู่เสมอ

ไม่ว่าใครจะถามตัวเขาว่า “คุณรู้สึกยังไงที่ได้ชื่อว่า นักกอล์ฟที่ดีที่สุดในโลก” เขากลับตอบว่า คนที่เล่นกอล์ฟเก่งที่สุดในโลกเป็นผู้หญิงไม่ใช่หรอ

ซึ่งเขาหมายถึง Joyce Wetherd ซึ่งเขาใช้หลักสถิติของผลงานเป็นตัววัด ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้อีกเหมือนกันว่า สถิติของการทำผลงานของเขานั้นดีเยี่ยมและบงบอกได้ว่าเขาเป็นนักกอล์ฟที่ดีที่สุดคนนึงเลยทีเดียว เพราะเขาก็เพิ่งเล่นได้เพียง 7 ปี ก่อนที่เขาจะอายุ 30 ปีนั้น

เขาเป็นแชมป์ British Open 3สมัย US Open 4สมัย Us Amateur Championship 5สมัย และ British Amateur Championship ซึ่งทั้งหมดนั้น ในปี 1930 เขาได้เป็นแชมป์ทุกรายการที่กล่าวมาพร้อมกันเลยทั้ง 4 รายการ โอ้ว แม่เจ้า สมัยนั้นเขาจะเรียกขานคนที่ทำได้แบบนี้ว่า Grand Slam 

แต่ไม่นานนัก เขารู้สึกอิ่มตัวและคงคิดว่าตัวเองนั้นอยู่จุดสูงสุดแล้ว เขาจึงของประกาศการแข่งกอล์ฟ ถือเป็นการแขวนไม้อย่างเป็นทางการอีกด้วย แต่จริงๆแล้วเขาก็ยังไปออกรอบบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อเป็นการผ่อนคลาย

เขาเป็นคนริเริ่มก่อตั้งสนาม Aunusta National Golf Club ซึ่งเป็นสนามแข่งขันอันสำคัญของรายการอันสุดจะโด่งดัง The Master จนถึงทุกวันนี้ และเมื่อ 6 ปีให้หลังจากการที่เขาประกาศเลิกแข่ง มีเรื่องนึงที่ถูกพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย

เขาเคยไปเยือนที่ St.Andrew เขาเพียงแค่ไปเล่นแบบพักผ่อนหย่อนใจ แต่พวกแฟนๆที่นั้นดันรู้เข้า ก็แห่กันมาดูมาเชียร์เขาเล่น เล่นไปเล่นมาเขามีแฟนๆมีดูถึงสองพันคนเลย และยังเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆด้วยซ้ำ และเหตุการณ์วันนั้น เขาก็ได้เขียนขอบคุณถึงการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่ St. Andrew ไว้ว่า “สิ่งที่ได้รับได้วันนั้น ทำให้ตัวผมรู้สึกถูกเติมเต็มด้วยความสุขอย่างที่สุด”

กีฬา-จิตใจที่เข้มแข็งทำให้ซิเยชมีวันนี้

ฮาคิม ซิเยช มิดฟิลด์ตัวรุกคนสำคัญของอาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ในเอเรดิวิซี่ ลีกของฮอลแลนด์ ตกเป็นข่าวว่าเขาอาจจะได้มาโลดแล่นในพรีเมียร์ลีกกับทีมเชลซีในฤดูกาลหน้า 

มีข่าวว่าเชลซี เตรียมยื่นข้อเสนอ กว่า 33.3 ล้านปอนด์เป็นค่าตัวของนักเตะวัย 26 ปี

แต่ว่าปูมหลังของเขาน่าสนใจไม่น้อยเมื่ออายุ 10 ขวบ ฮาคิมเกือบจะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลแล้ว หลังจากที่เข้าไปในห้องนั่งเล่นและพบพ่อบังเกิดเกล้าได้เสียชีวิตลง ช่วงเวลานั้นทำให้เด็กน้อยหันเหมาดื่มเหล้าและติดยา

ในครอบครัว เขามีพี่น้องกว่า 9 คนที่เกิดกับมารดาชาวเนเธอร์แลนด์และพ่อชาวโมร็อกโก ซึ่งฮาคิมก็ชอบเตะฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ช่วงเวลาที่พ่อเสียชีวิตจากโรคเส้นเลือดตีบ เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่น รีอัล ดรอนเท่น 

ซีเยชกล่าวว่าโรคภัยไข้เจ็บได้พรากบิดาของเขาไป จากนั้นผมก็เริ่มใช้ชีวิตแบบเตร็ดเตร่ , ดื่ม,กิน,เที่ยว เป็นเพราะว่าพ่อสูบบุหรี่หนักมากทำให้เกิดโรคนี้ 

เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2013 ที่ ผมจำได้ดีมันเพิ่งจะผ่านคริสต์มาสไม่นาน พ่อของผมนอนบนเตียงในตอนนั้นเขาดูไม่ค่อยดีในบางครั้ง

ผมกลับไปในคืนนั้นและต้องการอยู่กับพ่อ และผมหลับไปข้างๆ พ่อด้วย ซึ่งผมเสียในคืนนั้นเอง ตอนนั้นเด็กน้อยซิเยชมีอายุ 10 ขวบเท่านั้น 

และจากนั้นฮาคิมก็ไมได้ไปโรงเรียน แต่ก็พยายามเล่นฟุตบอลมีแต่เพียงฟุตบอลเท่านั้นที่เป็นเพื่อน โชคดีที่เขามีสหายที่ดี คือ อาซิช ดูฟิก้าที่พยายามดึงเข้าออกมาจากวงจรอุบาทว์

ซึ่งการได้เพื่อนดีก็ทำให้เขาไม่ถลำลึกลงไปมากกว่านี้  ซึ่งก็ต้องขอบคุณเพื่อนผมเหมือนกัน และการแข่งขันฟุตบอลทำให้ผมมีความสนุกสนานมีความแข็งแกร่งด้านจิตใจได้ดียิ่งขึ้น 

พออายุ 14 ปีเขาได้ย้ายมาเล่นกับฮีเรนวีน และใช้ชีวิตกับครอบครัวที่เป็นโฮสต์

และได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัย 19 ปี สองปีต่อจากนั้นเขาก็ย้ายมา เอฟซี ทเวนเต้ เขาได้รับมอบหมายเป็นกัปตันทีมในฤดูกาลที่สอง นอกจากนี้ในนามทีมชาติ ก็ติดทีมชาติฮอลแลนด์ชุดยู 19 และ ยู 21 โดยเป็นการเลือกสัญชาติตามมารดา

ซึ่งในฐานะแฟนบอลต้องคอยดูว่านักเตะรายนี้ ที่อายุปัจจุบัน 26 ปีจะแจ้งเกิดในโลกฟุตบอลได้เฉกเช่นเดียวกับฮีโร่ในดวงใจของเขา มาร์โก ฟาน บาสเท่นได้หรือไม่

ซิเยชมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับอาแจ๊กซ์เมื่อเขายิงได้ 17 ประตูและ 10 แอสซิสต์ และก่อนหน้านี้เขายังได้รับการทาบทามจากเบิร์นลี่ย์ ก่อนที่จะตัดสินใจย้ายมาเล่นที่ลอนดอนในที่สุด