ฟุตบอลเปลี่ยนโค้ช ไม่ใช่ว่าดีเสมอไป

หลายๆคนที่ติดตามชมฟุตบอลมานานแสนนาน คงจะได้ยินคำว่าฟุตบอลเปลี่ยนโค้ชเป็นอย่างดี เพราะหลายๆครั้งนั้น เมื่อการคุมทีมมาถึงทางตันที่โค้ชหรือผู้จัดการทีมไม่สามารถงัดไม้เด็ดหรือแผนการเล่นที่จะสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ฝ่ายตรงได้แล้วนั้น

มันก็ถึงเวลาที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง และก็เกือบกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ที่หลังจากบอลเปลี่ยนโค้ชแล้วนั้น ทีมจะกลับมาเล่นดีขึ้นผิดหูผิดตา อย่างน้อยก็ต้องมีห้านัดแรก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเช่นนั้น แต่หลายๆ ครั้งการเปลี่ยนโค้ช หากไม่ดูตาม้าตาเรือและเปลี่ยนไม่ถูกจังหวะก็มักจะตามมาด้วยความผิดพลาดหรือความล้มเหลวอยู่ไม่น้อย

ซึ่งเรื่องนี้คนที่จะต้องรับผิดชอบก็คงไม่พ้นฝ่ายบริหารหรือเจ้าของสโมสรเอง โดยหากย้อนมองไปไม่นาน อย่างเช่นฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา กรณีทีมชาติเสปน ก็เคยเกิดกรณีแบบนี้มาแล้ว เมื่อตอนที่ทีมชาติเสปนมีกุนซือกุมบังเหียน อย่างโลเปกี เป็นแม่ทัพใหญ่

และเหลือเวลาไม่ถึงเดือนจะเริ่มการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยในช่วงเวลานั้น ผลงานทีมชาติสเปน ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมในรอบคัดเลือก และก็เข้ารอบมาแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายและถูกวางให้เป็นทีมเต็งในการคว้าแชมป์เสียด้วย แต่เมื่อมีกระแสข่าวออกมาว่าหลังจากจบฟุตบอลโลกในครั้งนั้น นายทัพใหญ่อย่าง โลเปกี กำลังจะลาออกไปรับตำแหน่งผู้จัดการทีมราชันชุดขาว รีลมาดริด และมีข่าวว่าไปถ่ายรูปออกสื่อกันแล้วด้วย

ซึ่งเรื่องนี้สร้างความไม่พอใจต่อฝ่ายบริหารฟุตบอลทีมชาติเสปนเป็นอย่างมาก จนมีเรื่องมีราว ถึงขนาดได้ปลด โลเปกี ออกกลางคัน ในช่วงที่ฟุตบอลโลกใกล้จะเริ่มไม่ถึงเดือน และได้แต่งตั้ง เฟอร์นันโด เอียโร่ ขึ้นมาคุมบังเหียนแทน ทั้งๆที่ เอียโร่ ไม่เคยมีประสบการณ์คุมทีมแม้แต่ในระดับสโมสรเลยแม้แต่ทีมเดียว และผลสุดท้ายก็ลงเอย

ด้วยทีมชาติเสปนตกรอบฟุตบอลโลกรอบแรกไปตามระเบียบ นั่นจึงเป็นอุทาหรณ์ของการทำทีมให้หลายๆทีมได้เห็นว่า หากคิดจะปลดกุนซือ ก็ควรจะให้มันเหมาะกับเวลาที่จะปลดก่อน จนมาล่าสุดในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่ทีมวัตฟอร์ต กำลังลุ้นหนีตกชั้น และเหลือการแข่งขันอีกเพียงสองนัด แต่ประธานสโมสรกลับปลด ไนเจล เพียร์สัน ออกกลางคัน

จากสาเหตุที่เหมือนจะไม่ยอมรับฟังคำแนะนำของประธานสโมสรนั่นเอง แล้วดันโค้ชเยาวชนยู 23 ขึ้นมาคุมแทน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงพอสมควร เพราะหากจะเทียบประสบการณ์กับความสามารถของเพียร์สัน ที่อยู่กับการคุมทีมมาเกือบ สี่สิบปี คงเทียบกันไม่ได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นอุทาหรณ์อีกครั้งหรือไม่ ถ้าวัตฟอรต์ต้องตกชั้นไปในฤดูก

 

สนับสนุนโดย   ufabet